จากสถิติการเจริญพันธุ์พบว่า มีผู้หญิงจำนวน 5 – 10% ที่มีภาวะมีบุตรยากกว่าผู้หญิงปกติทั่วไป และไม่มีสาเหตุบ่งชี้ที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ผู้หญิงมีบุตรยากดังนี้:
1. อายุ
ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงทราบประเด็นนี้ดีอยู่แล้วว่า อายุจะมีผลต่อการเจริญพันธุ์ของสตรีมาก “ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า จะมีจำนวนไข่มากกว่า” ผู้หญิงทุกคนเกิดมาพร้อมกับไข่จำนวนมากมาย จำนวนไข่นี้จะลดลงไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนอายุที่มากขึ้น
เมื่อมีการตั้งครรภ์หลังจากอายุ 40 ปี อัตราการเสี่ยงของความพิการของเด็กในท้องก็จะมีมากขึ้น
2. การสูบบุหรี่ 
ในปัจจุบันนี้ ผู้คนตระหนักถึงพิษภัยของการสูบบุหรี่กันเป็นอย่างดี เพราะการสูบบุหรี่นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมแล้ว ยังทำให้เกิดการสูญเสียไข่ในผู้หญิง และทำให้ไข่ที่เหลือคุณมีคุณภาพต่ำลง เกิดการปฏิสนธิได้ยากขึ้น การสูบบุหรี่ในระหว่างการตั้งครรภ์จะทำให้เกิดอัตราการแท้งสูงขึ้น การสูบบุหรี่เป็นประจำจะทำให้มดลูกเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะเข้าสู่วัยทองเร็วกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้สูบ 1 – 2 ปี
3. น้ำหนักตัว
จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่า การตั้งครรภ์กับน้ำหนักตัวมีความเชื่อมโยงกันอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม สูตินารีแพทย์จึงมักจะแนะนำให้สตรีที่ต้องการตั้งครรภ์รักษาน้ำหนักตัวให้สมดุล ยิ่งคุณมีน้ำหนักตัวที่สมดุลกับส่วนสูงมากเท่าไร การตั้งครรภ์ของคุณก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น ปริมาณไขมันในร่างกายจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระดับฮอร์โมน ซึ่งจะส่งสัญญาณไปยังต่อมใต้สมอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญมากที่คอยสั่งการส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงรังไข่ของคุณด้วย
4. ช่วงเวลาตกไข่ของคุณ
ในระหว่าง 12 ถึง 24 ชม.หลังจากการตกไข่ เป็นช่วงเวลาทีดีที่สุด เป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เกิดการปฏิสนธิได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้น เมื่อต้องการตั้งครรภ์ ควรมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างช่วงตกไข่นี้ ซึ่งการตกไข่จะเกิดประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากมีประจำเดือน
5. ปัญหาสุขภาพส่วนตัวของคุณ 
เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ เยื่อบุโพรงมดลูกเติบโตนอกมดลูก – ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ รวมไปถึง กลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ (พีซีโอเอส) หรือต่อมไร้ท่อผิดปกติซึ่งจะส่งผลต่อฮอร์โมนได้