ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในป่าลึกที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงแล้วละก็ คุณคงพอรู้มาบ้างว่า “การฝึกความแข็งแกร่ง” ของกล้ามเนื้อจะช่วยให้คุณมีรูปร่างที่เพรียวกระชับได้ จากผลการวิจัยล่าสุดยังพบอีกว่า “การฝึกความแข็งแกร่ง” แบบถูกต้องช่วยให้ลดน้ำหนักได้รวดเร็วกว่าจ๊อกกิ่งเสียอีก
จากการวิจัยก่อนหน้านี้ ชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้กับร่างกายจะเป็นการช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี “การฝึกความแข็งแกร่ง” ของกล้ามเนื้อแบบถูกต้อง จะทรมานร่างกายน้อยลง การวิ่งบนเครื่องวิ่ง 1 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าคุณต้องออกกำลังกายเป็นเวลานาน และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากเมื่อคุณกำลังจะลดน้ำหนัก
ต้องยกน้ำหนักมากเท่าไร 
ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า ให้เริ่มต้น “การฝึกความแข็งแกร่ง” ของกล้ามเนื้อโดยให้มีความหนักอยู่ที่ประมาณ 60 – 70% ของความต้านทานสูงสุดที่คุณรับได้ โดยทั่วไปให้เริ่มต้นยกที่ 10 ครั้ง (แต่ถ้าคุณไม่สามารถทำได้ถึง 10 ครั้ง ให้ทำให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ โดยที่ไม่ฝืน ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนครั้งขึ้นเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น) เมื่อการยกน้ำหนักติดต่อกัน 10 ครั้งกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ ให้คุณเพิ่มจำนวนครั้งให้มากขึ้น เป็น 15 ครั้ง แต่ยังใช้น้ำหนักเท่าเดิมอยู่ เมื่อคุณมาถึงจุดที่คุณยกน้ำหนักติดต่อกัน 15 ครั้งได้สบาย ๆ ให้คุณเพิ่มน้ำหนักของดัมเบลขึ้น 50 % เช่น ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยดัมเบลหนัก 3 กก. น้ำหนักต่อไปที่คุณควรจะใช้คือ 4.5 กก. หรือถ้าคุณเริ่มต้นด้วยดัมเบลหนัก 4 กก. น้ำหนักต่อไปที่คุณควรจะใช้คือ 6 กก. เป็นต้น
ต้องทำซ้ำกี่ครั้ง
จากการวิจัยแนะนำว่าควรทำซ้ำ 2 – 3 เซตในแต่ละท่า ให้พัก 30 วินาทีระหว่างเซต ถือว่าเพียงพอ ถึงแม้คุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตาม แต่จากการวิจัยพบว่า การทำให้ครบแม้เพียง 1 เซตก็ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายแล้ว
แล้วจะลดน้ำหนักได้เท่าไร 
“การฝึกความแข็งแกร่ง” ของกล้ามเนื้อเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อให้กับร่างกายได้เดือนละ 0.45 กก. และช่วยลดไขมันได้ 0.45 กก. เช่นกัน ซึ่งนั่นหมายความว่า จะลดน้ำหนักได้เท่ากับ 0 กก. ต่อเดือน ถ้าคุณใช้เพียงแต่ตัวเลขบนตาชั่งเป็นเกณฑ์วัด คุณจะไม่เห็นความก้าวหน้าอะไรเลย ดังนั้น ขอให้ดูที่สัดส่วนเป็นสำคัญ เพราะเป้าหมายของเราคือ ให้กล้ามเนื้อมาทดแทนไขมัน ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกท้อใจ ภาพถ่ายก่อน-หลังจะช่วยคุณได้เป็นอย่างดี